เครื่องดูดเสมหะมีความสำคัญอย่างมากในด้านการดูแลสุขภาพและการรักษาของผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจหรือมีเสมหะในทางเดินหายใจมากกว่าปกติ ซึ่งในปัจจุบันมีที่ดูดเสมหะจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อตามความต้องการ หากคุณมีผู้ป่วยที่มีปัญหาในด้านนี้ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ การรู้จักวิธีการใช้งานและการเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น
ทำความรู้จัก ‘เครื่องดูดเสมหะ’ คืออะไร
เครื่องดูดเสมหะ หรือเครื่อง suction คือ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการดูดของเหลวและเสมหะที่มีความเหนียวข้นออกจากร่างกายของผู้ป่วย โดยใช้แรงดูดขับเสมหะเพื่อลดปริมาณเสมหะอุดตันภายในระบบหายใจและหลอดลม ทำให้ผู้ป่วยมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการหายใจและลดความเสี่ยงของภาวะหายใจล้มเหลว
ถือได้ว่าอุปกรณ์ที่ดูดเสมหะในคอเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและช่วยในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้เป็นอย่างมากนั่นเอง
วิธีการเลือกซื้อเครื่องดูดเสมหะให้ได้คุณภาพ
การเลือกซื้อเครื่องดูดเสมหะเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจและพิถีพิถัน เนื่องจากต้องมั่นใจว่าเครื่องที่คุณเลือกซื้อนั้นมีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1.ประสิทธิภาพในการดูดเสมหะ
การคำนึงถึงประสิทธิภาพในการดูดเสมหะหรือแรงดูดถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ที่ควรพิจารณาก่อนการเลือกซื้อ ควรเลือกเครื่องที่มีแรงดูดเพียงพอสำหรับการดูดเสมหะ แต่ไม่แรงเกินไปจนทำให้เกิดความไม่สบายต่อผู้ป่วย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความจุในการดูด ควรเพียงพอสำหรับการดูดเสมหะในครั้งเดียวเพื่อความต่อเนื่องในการใช้งาน
2.ความสามารถในการพกพา
หากต้องการใช้งานเครื่องดูดเสมหะที่บ้านและนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ควรเลือกเครื่องที่มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด และง่ายต่อการพกพา หรือเครื่องดูดเสมหะเคลื่อนที่โดยเฉพาะ รวมถึงการเลือกเครื่องที่มีแบตเตอรี่สำรองสำหรับใช้งานในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้า
3.ระดับเสียง
โดยปกติแล้วเครื่องดูดเสมหะสำหรับผู้ป่วยจะมีเสียงค่อนข้างดังขณะใช้งาน เนื่องจากต้องใช้แรงลมในการดูดเสมหะออกมา แต่ทั้งนี้ก็มีเครื่องที่มีระดับเสียงที่ไม่ดังเกินไป เหมาะสำหรับใช้งานเพื่อไม่ให้รบกวนผู้ป่วยและผู้ใช้งานเอง
4.การใช้งานและการบำรุงรักษา
ควรเลือกเครื่องที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีคู่มือการใช้งานที่ชัดเจน รวมถึงเรื่องของการทำความสะอาดและการบำรุงรักษาที่ควรทำได้ง่าย เพื่อให้สะดวกและใช้งานได้อย่างยาวนาน
5.คุณสมบัติเสริมต่างๆ
นอกจากประสิทธิภาพในการใช้งานได้ตรงจุดแล้ว การเลือกซื้อเครื่องที่มีคุณสมบัติเสริมต่างๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการใช้งาน เช่น มีระบบกรองเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เป็นต้น
6.มาตรฐานและความปลอดภัย
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการตัดสินใจเลือกซื้อก็คือการเลือกเครื่องที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น มาตรฐาน ISO หรือ CE และตรวจสอบว่าตัวเครื่องมีระบบความปลอดภัยอื่น ที่ช่วยป้องกันอันตรายในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ เช่น ระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร หรือระบบป้องกันการทำงานผิดพลาด เป็นต้น
7.ราคาและการรับประกัน
ราคาเครื่องดูดเสมหะควรสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ แต่ทั้งนี้ไม่ควรเลือกซื้อจากราคาเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาถึงเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งานด้วย นอกจากนี้ควรเลือกเครื่องที่มีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ดี
8.รีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้
นอกจากปัจจัยอื่นๆ ที่กล่าวไปข้างต้น ควรศึกษาจากรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง เพื่อให้ทราบถึงข้อดีและข้อเสียของเครื่องแต่ละรุ่น และนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ
วิธีใช้เครื่องดูดเสมหะอย่างถูกวิธี และข้อควรระวัง
ปกติแล้วเครื่องดูดเสมหะมีวิธีใช้งานที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน แตกต่างไปตามระบบและฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ ดังนี้
ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนการใช้งาน
- ล้างมือ : ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลเพื่อฆ่าเชื้อโรค
- เตรียมอุปกรณ์ : มือใหม่ที่พึ่งใช้งานและสงสัยว่าอุปกรณ์ดูดเสมหะมีอะไรบ้าง ให้เตรียมอุปกรณ์ดังนี้
- เครื่องดูดเสมหะ
- สายดูดเสมหะ
- ถุงมือปลอดเชื้อ (ถ้าจำเป็น)
- น้ำเกลือปราศจากเชื้อ (สำหรับล้างสายดูดเสมหะ)
- ภาชนะสำหรับเก็บเสมหะ
ขั้นตอนการใช้งาน
- ตรวจสอบเครื่อง
- ตรวจสอบว่าเครื่องทำงานได้อย่างปกติและมีแรงดูดเพียงพอ
- ตรวจสอบสายดูดเสมหะให้อยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยแตกหรือรั่ว
- ตั้งค่าแรงดูด
- ตั้งแรงดูดให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์หรือคู่มือการใช้งาน
- สำหรับเด็กแรงดูดควรอยู่ที่ประมาณ 80-100 mmHg
- สำหรับผู้ใหญ่แรงดูดควรอยู่ที่ประมาณ 100-150 mmHg
- จัดท่าผู้ป่วย
- ผู้ป่วยควรนอนหรือนั่งในท่าที่สะดวกและผ่อนคลาย
- หันศีรษะผู้ป่วยไปด้านหนึ่งเล็กน้อย เพื่อป้องกันการสำลัก
- สวมถุงมือ : ควรสวมถุงมือปลอดเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- เตรียมสายดูดเสมหะ : จุ่มปลายสายดูดเสมหะในน้ำเกลือเพื่อหล่อลื่นและป้องกันการระคายเคือง
- เริ่มดูดเสมหะ : โดยทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เปิดเครื่องดูดเสมหะ
- ค่อยๆ ใส่ปลายสายดูดเสมหะเข้าไปในทางเดินหายใจของผู้ป่วย (จมูกหรือปาก) อย่างระมัดระวัง
- ค่อยๆ ดูดเสมหะออกมา โดยไม่ควรดูดเกิน 10-15 วินาทีในแต่ละครั้ง
- หยุดเป็นระยะเพื่อให้ผู้ป่วยหยุดพักและหายใจสะดวก
- ทำความสะอาดสายดูดเสมหะ : หลังจากดูดเสมหะเสร็จ ให้ดูดน้ำเกลือผ่านสายเพื่อทำความสะอาดและปิดเครื่องดูดเสมหะและถอดสายออก
ขั้นตอนหลังการใช้งานเครื่องดูดเสมหะเสร็จ
- ทำความสะอาดเครื่องและอุปกรณ์
- ทำความสะอาดในส่วนที่สามารถถอดออกและทำความสะอาดได้ตามคู่มือการใช้งาน
- ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดสายดูดเสมหะและส่วนที่สัมผัสกับเสมหะ
- จัดเก็บอุปกรณ์
- เก็บเครื่องดูดเสมหะในที่แห้งและสะอาด
- เก็บสายดูดเสมหะและอุปกรณ์อื่นๆ ในภาชนะที่สะอาด
ข้อควรระวัง
- ควรตรวจสอบและปรับแรงดูดให้เหมาะสมกับผู้ป่วย
- ไม่ควรดูดเสมหะนานเกินไปในครั้งเดียว
- หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือมีเลือดออก ควรหยุดใช้งานทันทีและปรึกษาแพทย์
แนะนำเครื่องดูดเสมหะยี่ห้อไหนดี
ปัจจุบันมีเครื่องที่ใช้สำหรับการดูดเสมหะหลากหลายยี่ห้อ การเลือกซื้อเครื่อง Suction ราคาและคุณภาพที่เหมาะสมจะช่วยให้การดูแลผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งเราได้คัดเครื่องที่มีคุณภาพมาให้คุณได้เลือกซื้อที่นี่แล้ว
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ Yuwell : ยี่ห้อยอดนิยมและมีให้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ Fresco : น้ำหนักเบา พกพาง่าย สะดวกต่อการใช้งาน
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ Flaem : ได้รับมาตรฐานจากยุโรปและดีไซน์ทันสมัย
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ Konsung : มีเสียงในการใช้งานที่เบาและมีระบบเสริมต่างๆ
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ Cliq : เหมาะกับการใช้งานที่บ้าน หรือใช้เป็นเครื่องดูดเสมหะผู้ป่วยติดเตียง
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ Galemed : ใช้งานง่าย และสะดวกต่อการพกพา
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ SMAF : ราคาถูก เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณไม่มาก
- เครื่องสำหรับดูดเสมหะแบรนด์ Allwell : มีการรับประกันสินค้าและรีวิวจากผู้ใช้งานจริง
จะเห็นได้ว่าเครื่องดูดเสมหะมีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับด้านระบบหายใจ ช่วยในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย และถูกนำไปใช้อย่างหลากหลายสำหรับผู้ป่วยในกลุ่มต่างๆ เช่น ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียง ดังนั้นการเลือกซื้อรวมไปถึงการให้ความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง
Ref : https://w2.med.cmu.ac.th/ha/wp-content/uploads/2020/03/การดูดเสมหะ.pdf?x35723
https://medinfo.psu.ac.th/nurse/manual_med/manual_med_suction.pdf